ไมคาห์เป็นเจ้าหนูระดับอัจฉริยะ เรียกได้ว่าเป็นลูกหม้อของถิ่นเรือใบสีฟ้าขนานแท้ เพราะเขาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะรุ่นจิ๋วของ “ซิตี้” ตั้งแต่อายุ 14 โดยย้ายมาจากทีมโอลแฮมแอทเลติค และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไมคาห์ก็ฉายแววนักเตะดาวรุ่งแห่งอคาเดมี่ของ “ซิตี้” มาโดยตลอด
ฤดูกาล 2005/2006 เป็นจุดเริ่มต้นที่สวยงามของไมคาห์ เขาได้มีโอกาสลงเตะให้กับทีมหลายนัดและยังเคยเดินทางไปเมืองไทยเพื่อเล่นกับโบลตันและเอเวอร์ตันด้วย เมื่อกลับจากเมืองไทย ไมคาห์ก็แสดงฟอร์ม “ฮอท” สุดขีดเมื่อซัด “แฮทริค” สำเร็จในศึกทีมชาติชุดสำรองระหว่าง “ซิตี้” และ “สตาลี่บริดจ์” หลังจากนั้นไมคาห์ก็ยังคงลีลากองหลังที่มีความสามารถพิเศษในการยิงลูกเข้าไปตุงตาข่ายคู่แข่งได้อย่างสม่ำเสมอ ลูกเตะของปราการกองหลังคนนี้เองที่ทำให้ “เดอะบลูส์” มีชัยเหนือวีแกนไป 3-2 และยังช่วยยันเสมอ “เดอะคอป” ไว้ 1-1 ได้ในนัดดวลแข้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน
ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงซาบซ่านี่เองที่ทำให้เจ้าหนูไมคาห์ได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นชุดสำรองยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม 2005 (พ.ศ. 2548)
ไมคาห์ของพวกเราได้ประเดิมลงสนามในฐานะตัวจริงเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมที่สนามไฮบิวรี่ โดยเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงไป และเขาก็เกือบได้ทะลวงประตูสำเร็จก่อนที่ซิตี้จะยันเสมอได้ในแมทซ์นี้
และในศึกดวลแข้งกับชาร์ลตัน ไมคาห์ถูกสลับให้มาเล่นตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งประจำของเขาแต่เจ้าหนูของเราก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด กลับสร้างผลงานได้ชนิดที่ประทับใจขาโจ๋แฟนบอลไปตาม ๆ กัน และในแมทซ์ถัดมา ไมคาห์ก็สามารถทำประตูตีเสมอให้ ซิตี้” ได้ในช่วงต่อเวลาที่วิลลาปาร์ค และแฟน “ซิตี้” ทุกคนคงยังจำภาพที่ไมคาห์กระโจนเข้าหาฝูงกองเชียร์เดอะบลูส์หลังทำประตูทีเด็ดนี้ได้
และด้วยฟอร์มที่สุดยอดแบบนี้ทำให้ไมคาห์สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ตลอดทั้งฤดุกาลในขณะที่ไมคาห์ได้สวมเสื้อทีมซิตี้เบอร์ 2 อย่างเป็นทางการ เขาก็สวมเสื้อทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปีได้ด้วยและประเดิมสนามทีมชาติในนัดที่อังกฤษเจอมอลโดวา เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2006 และเขาก็โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในแมทซ์ที่เจอทีมชาติเนเธอร์แลนด์ บรรดานักวิจารณ์พากันยกนิ้วให้กับผลงานของเขา ไมคาห์ได้ลงแข่งให้ทีมชาติอีก 3 นัด แต่ในฤดูกาล 2006/2007 อาการบาดเจ็บที่หน้าแข้งของเขากำเริบจนต้องมีการผ่าตัดทำให้เขาต้องพักยาวในฤดูกาลนี้
แต่สำหรับฤดูกาล 2007/2008 ไมคาห์ ริชาร์ดยืนยันว่าเขามีความสมบูรณ์เต็มที่ และก็จริงดังว่า เพราะเขาเริ่มต้นฤดูกาลได้สวยงามจนได้รับการลงมติให้เป็น “ผู้เล่นยอดเยี่ยม” หรือ “แมนออฟเดอะแมทซ์” ในนัดที่ “ซิตี้” เปิดบ้านสอนบอลคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “ปีศาจแดง” ไป 1-0 ชนิดที่ทำเอาแฟน “ซิตี้” นอนหลับฝันดีกันไปหลายเดือน!
นอกจากนี้ในแมทซ์ที่อังกฤษลงปะทะแข้งกับอินทรีเหล็กเยอรมันนีที่สนามเวมบลีย์ในกรุงลอนดอน ไมคาห์ของเราก็เป็นคน “ชง” ลูกสุดสวยให้แฟรงค์ แลมพาร์ด ทิ่มลูกเข้าไปตุงตาข่ายเยอรมันนีได้สำเร็จ แต่ความสำเร็จสุดยอดของไมคาห์ ริชาร์ด คือการที่ทำประตูให้ทีมชาติอังกฤษได้สำเร็จในนัดที่ดวลแข้งกับอิสราเอล |